top of page

การปฏิรูปองค์กรสู่ดิจิทัล หรือ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์ม



การปฏิรูปองค์กรสู่ดิจิทัล หรือ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์มกำลังเป็นประเด็นที่ภาคธุรกิจ รวมถึงภาครัฐในนโยบายระดับชาติให้ความ สำคัญ ด้วยเห็นว่าเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาพรวม เพิ่มขีดแข่งขันให้ประเทศ ท่ามกลางเทคโนโลยีใหม่ที่ไหลบ่าอย่างรวดเร็ว และรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ใครปรับเปลี่ยนช้ามีความ 'เสี่ยงสูง' ที่ธุรกิจอาจไม่ได้ไปต่อ งาน 'ไทยแลนด์ ไอซีที แมเนจเม้นท์ ฟอรั่ม 2017' ของสมาคมการจัดการธุรกิจ แห่งประเทศไทย (ทีเอ็มเอ) เมื่อเร็วๆ นี้ เปิดเวทีให้เหล่ากูรูจากบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ ร่วมถ่ายทอดกลยุทธ์การทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งยุคโมบาย เฟิร์ส นายโอม ศิวะดิตถ์ ผู้บริหารด้านนโยบายภาครัฐ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ไมโครซอฟท์" จะเป็นกำลังสำคัญพาองค์กรก้าวสู่ ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการทำทรานส์ฟอร์เมชั่น ยุคนี้เป็นยุคดิจิทัล เส้นแบ่งระหว่าง Physical กับดิจิทัลนั้นบางมากๆ พร้อมยกตัวอย่างบริษัทเลโก้ ที่พัฒนาจากเกมตัวต่อรูปแบบกายภาพเป็นเพียงสตาร์ทเตอร์คิท เชื่อมกับวิดีโอเกมที่มีลูกเล่น มากกว่า สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่า โปรดักท์หรือธุรกิจที่ทำอยู่คืออะไร แต่ให้คิดว่าเป็นบริษัทเทคโนโลยี ได้หมด"แมชชีน เลิร์นนิ่ง" เปลี่ยนโลก ขณะที่รูปแบบธุรกิจ "แชร์ริ่ง อีโคโนมี" เช่น อูเบอร์ ก็เริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจเดิมอย่างแท็กซี่ ซึ่งเบื้องหลังที่ทำให้โมเดลแบบนี้เกิดขึ้นได้คือ โมบาย เฟิร์ส โดยสถิติจำนวนการเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือเกินจำนวนประชากรไปแล้ว ความแพร่หลาย ดังกล่าวทำให้คนเข้าถึงธุรกิจดิจิทัลได้ง่าย ดังนั้นการให้บริการหรือการเข้าถึงลูกค้าได้ ต้องเข้าถึงทุกช่องทาง อีกส่วนหนึ่ง คือ เทคโนโลยีคลาวด์ ที่สนับสนุนการให้บริการธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ได้ ส่วนคลื่นลูกต่อไปในโลกดิจิทัล คือ เทคโนโลยี "แมชชีน เลิร์นนิ่ง" ผนวกกับ "บิ๊ก ดาต้า" เพื่อนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วย พยากรณ์ และช่วยตัดสินใจได้ ซึ่งอาจออกมา ได้หลายรูปแบบ เช่น เอไอ แชทบอท ที่ไมโครซอฟท์มองว่าเรื่องเหล่านี้ คือ Next Wave สำหรับการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น กลไกลสำคัญที่จะทำให้ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นทำงานได้ต้องอาศัย องค์ประกอบหลัก คือ โมบาย, คลาวด์ คอมพิวติ้ง, บิ๊ก ดาต้า และแมชชีน เลิร์นนิ่ง ขณะที่ อีกเวทีเสวนา "Inside the Customers' Mind; What Will be Their Next Move" นายอานนท์ สันติวิสุทธิ์ ผู้บริหารฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ เฟซบุ๊ค ประเทศไทย ชี้เทรนด์สำคัญว่า "โมบาย เฟิร์ส" เป็นตัวทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กระแสต่างๆ ที่คนพูดถึงเริ่มเข้าไปอยู่ในออนไลน์ ธุรกิจ ก็ต้องเข้าใจผู้บริโภคให้มากขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ข้อมูลจากเฟซบุ๊ค พบว่า พฤติกรรมผู้ใช้ในไทยใช้เฟซบุ๊ค เฉลี่ยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน ล็อกอิน เข้าใช้งาน 14 ครั้งต่อวัน และใช้ เวลาในการโพสต์แต่ละครั้ง 1.7 วินาทีเท่านั้น "นั่นแปลว่า เราจะ หยุดนิ้วโป้งที่เขาจะโพสต์นั้น ได้อย่างไร จึงต้องเข้าใจ เซ็กเมนเทชั่นของเขาก่อน ว่าติดตามเพจประเภทไหน จะนำมาทาร์เก็ตได้ ชอบอะไร จะได้ทำเพอร์ซัลนัลไลซ์ แคมเปญได้" ทั้งนี้ นักการตลาดต้องให้ความสำคัญ กับการทำเพอร์ซัลนัลไลเซชั่น ที่ต้องมี เซ็กเมนเทชั่น และอินไซด์ก่อน นักการตลาด ต้องเรียนรู้ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค ที่เปลี่ยนไป และวางแผนทำแคมเปญ ที่เหมาะสมออกมาตอบโจทย์ นายอานนท์ กล่าวถึงธุรกิจของเฟซบุ๊ค ด้วยว่า ไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ที่ประสบ ความสำเร็จทั้งหมดเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญ คือ การทดลองและเรียนรู้ เพื่อพัฒนา สิ่งที่เหมาะกับผู้ใช้งาน เพราะข้อมูล ก็จะให้อินไซด์ และอินไซด์ก็จะให้ แอคชั่นใหม่ โมบาย เฟิร์ส ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปสิ้นเชิง อานนท์ สันติวิสุทธิ์ ระบบ manual ทำให้การบริหารจัดการค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อทำให้ข้อมูลอยู่ในรูปของดิจิทัลก็ทำให้เห็นภาพรวมและแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) แบรนด์ใหญ่แนะเทคนิค 'องค์กรยุคใหม่' ภายในงานเสวนานี้ มีช่วงหนึ่งพูดถึง การเปลี่ยนแปลงระดับการปฏิบัติการ นายธีรพันธุ์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้อำนวยการสำนักสารสนเทศ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมการทำงาน จะมีทั้ง manual และนำระบบดิจิทัล เข้ามาช่วย ซึ่งโดยปกติจะมีเคพีไอเป็นตัวชี้วัดระดับความสำคัญของข้อมูลแสดงผลผ่านจอแสดงผล (แดชบอร์ด) เช่น ตัวชี้วัด เรื่องสินค้าแตกเสียหายในคลังสินค้าที่จะเห็นแค่ผล หรือจำนวนสินค้าที่เสียหายในแดชบอร์ด แต่ยังมีข้อมูลที่ไม่เห็นอีกจำนวนหนึ่ง เช่น ข้อมูลผู้ทำสินค้าแตกเสียหาย หรือสาเหตุที่ผ่านมาข้อจำกัดของระบบ manual ทำให้การบริหารจัดการค่อนข้างลำบาก แต่เมื่อทำให้ข้อมูลอยู่ในรูปของดิจิทัลก็ทำให้เห็นภาพรวมและ แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างจากการทำ sell force automation จะเห็นปัญหายิบย่อย เช่น โปรแกรมใช้งานยาก หรือสำหรับคน อายุมากอาจมีปัญหาเรื่องขนาดฟอนต์เล็ก หรือการปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี ได้ช้ากว่าเด็กเจนใหม่ หากจุดสำคัญที่ทำให้ไทยเบฟเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จคือ ต้องหาจุดที่ต้องการแก้ให้เจอก่อน เพราะปัญหาที่องค์กรส่วนใหญ่เจอ คือ ธุรกิจไม่รู้จัก ไอที และไอทีก็ไม่มีมุมมองด้านธุรกิจ ทำให้ โปรเจคประสบความสำเร็จได้ยาก นายศรายุทธ แสงจันทร์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงิน บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงองค์กรมีองค์ประกอบสำคัญๆ 4 อย่าง คือ การเคลื่อนย้ายในเชิงกายภาพ, ดาต้า ข้อมูล ต่างๆ และเงิน ที่ต้องไปพร้อมๆกัน การเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดการ สร้างฐานที่มั่นคง และทำข้อมูลให้ชัดเจน เพื่อให้อยู่บนระบบเดียวกันได้ ตอบโจทย์ว่าทำอย่างไรให้ระบบพร้อมที่จะก้าวสู่การทำ บิ๊กดาต้า หรือนำข้อมูลมาทำให้เกิดประโยชน์ ก้าวถัดไปต้องดูธุรกิจตั้งแต่ต้นจนถึง ปลายน้ำ ที่ต้องทำให้ถูกตั้งแต่แรก ซึ่งจะไป เชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงที่ต้องทำให้ เร็วขึ้นตอบสนองความต้องการผู้บริโภคหรือผู้ใช้ที่เปลี่ยนเร็วมาก นายอุดร คงคาเขตร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า เอสซีจี โลจิสติกส์ มีทรานเซคชั่น การส่งของด้วยรถยนต์ 7,000 คัน ทั่วประเทศทุกวัน ความปลอดภัยต้องสูง รวมถึงความต้องการลูกค้าที่ต้องการได้รับ สินค้าที่ไม่เสียหาย เป็นที่มาการทำ ศูนย์รวมข้อมูล เพื่อให้เกิดมาตรฐาน ของระบบโลจิสติกส์ โดยทำข้อมูลการขนส่งทั้งหมด เพื่อปรับปรุงระบบความปลอดภัย ผสมผสาน เทคโนโลยีที่หลากหลาย ทั้งจีพีเอส การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และกำหนดจุดสุ่มเสี่ยง เพื่อให้ระบบแจ้งเตือนกรณีอาจเกิด ความเสี่ยง รวมถึงทำระบบให้สื่อสารกันได้ ซึ่งปัจจุบันเอสซีจีมีแผนที่ที่ระบุข้อมูล ได้ละเอียดถึงขั้นมีจุดมาร์กห้ามจอด หรือพื้นที่เสี่ยงที่ต้องลดความเร็ว นอกจากนี้เอสซีจี ยังมีโครงการทดลองทำ "คอนโซลิเดชั่น แพลตฟอร์ม" ที่มีต้นทางและปลายทางที่หลากหลาย ซึ่งความยากคือ ความซับซ้อนและ หลากหลายที่ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย และสร้าง ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ เพื่อรวมสินค้า และมีระบบบริหารจัดการสินค้าที่มาหลายแสนยูนิต โดยมีระบบหลักคือ ระบบ บริหารจัดการคลังสินค้าของเอสเอพี ขณะเดียวกันการสื่อสารในองค์กรก็มีความสำคัญ และต้องหา Early Adopter ให้พบ และให้คนกลุ่มนี้ได้ลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อทำให้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลง บรรยายใต้ภาพ อานนท์ สันติวิสุทธิ์ โอม ศิวะดิตถ์


ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560

Comments


TMA-Grid-EditCS4

สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย

276 ซ.รามคำแหง 39 (เทพลีลา 1) ถ. รามคำแหง แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310

Contact Us

Tel: +662-319-7677 / +662-718-5601

Click here to find us on map

  • Line_Rounded_Solid_icon-icons.com_61550
  • LinkedIn
  • Facebook
  • Instagram

Copyright ©2024 by Thailand Management Association.

bottom of page